การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ โดยเรื่องความเจ็บป่วยครั้งนี้ได้รับการเผยแพร่จากสมาชิกพันทิป “หมวยสมถะ” ซึ่งได้เผยแพร่เรื่องราวของตนเอง โดยผู้โพสต์ระบุว่า ” พี่โอ๋ แชร์ประสบการณ์ชีวิต ดูแลตัวเองจนป่วย!!เกือบตาย สาวๆที่ชอบออกกำลังกาย,กินมังสวิรัติ,นับแคล,ดีทอกซ์ ต้องอ่าน!!!” โดยผู้โพสต์ได้ระบุว่า เริ่มต้นจากเป็นคนไม่ออกกำลังกาย และเริ่มเจ็บป่วยบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น ไมเกรน , ท้องเสีย , อาหารไม่ย่อย , อ่อนแอ เป็นเริม งูสวัสดิ์ ป่วยจนต้องเข้า รพ. จากเหตุการณ์ที่ป่วยบ่อยๆ ทำให้คิดว่า ต้องทำอะไรซักอย่าง ก็เริ่มหันมาออกกำลังกาย อย่างจริงจัง เช่น ตีแบตวันละ 3-4 ชั่วโมง ปั่นจักรยานครั้งนี้ 15-20 กม. เดิน วิ่ง และเริ่มออกไปวิ่งรายการต่างๆ ปั่นจักรยานทางไกลมากขึ้น แต่ละวันจะออกกำลังกายทั้งเช้าและเย็น ส่วนเรื่องอาหารก็รับประทานทุกอย่าง โดยไม่ได้ควบคุมแต่กลัวอ้วน ก็จะงดอาหารมื้อหลัก เพื่อกินขนมที่ชอบ รวมทั้งชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
จากนั้นเริ่มเห็นความผิดปกติของร่างกายคือ สิวขึ้นเห่อที่หน้าผาก เริ่มลามไปที่คอ หน้าอก แม้ว่าจะรักษาทุกวิธีแล้วก็ตาม หลังจากนั้นเธอเริ่มค้นพบว่า กินเจแล้วทำให้อาการสิวเริ่มยุบลง จึงคิดเอาเองว่า เนื้อสัตว์ไม่ดีกับตัวเอง และหันมากินเจอย่างจริงจัง รวมทั้งยังออกกำลังกายหนักเช่นเดิม แต่สิวบนหน้าและตามตัวก็ยังไม่หายและดูเหมือนจะหนักขึ้น จึงหันไปหาการล้างพิษ ด้วยน้ำที่โฆษณาต่างๆ รวมทั้งเข้าคอร์ทการล้างพิษตับ โดยเธอใช้คำว่า เริ่มหันมา ล้างพิษอย่างบ้าคลั่ง ทานน้อยมาก เช่น แอปเปิ้ล2ลูก, กล้วย ลูกนึง , นมถั่วเหลือง1แก้ว ,Cereal Bar , ขนมปังโฮลวีทวันละแผ่นสองแผ่น , กาแฟ ไม่มีน้ำตาล , ไส้กรอกเจบ้าง , อาหารกระป๋องเจ บางวัน งดอาหาร Detox ทานแต่ผลไม้ วันไหนไปปั่น จกย.ทางไกล มีแค่น้ำเปล่า ซีเรียลบาร์ 2 แท่ง Detox น้ำมะนาว ออกกำลังกายอาทิตย์ละ6 วัน วิ่ง10k++, ปั่น70k++ ,ว่ายน้ำ1k++
หลังจากการลงวิ่งสนาม 24km อีกประมาณสองอาทิตย์ ร่างกายก็เริ่มมีอาการผิดปกติ… แบบชัดเจนขึ้น เบื่ออาหาร นอนน้อย (หลับตี1-2 // ตื่นตี3-4) อ่อนเพลีย หลับในบ่อยๆเวลาขับรถ พอจอดก็ไม่ง่วง ออกกำลังกายได้หนักเหมือนเดิมยังมีแรง น้ำหนักคงที่ ทั้งที่ทานน้อยกว่าใช้ น่าจะ นน.ลด ระหว่างนั้น ก็มักจะมีอะไรแปลกๆ เช่น จู่ๆก็ขึ้นผด ขึ้นผื่น แบบขึ้นภายใน 1-2 ชม. จนหน้าบวม มีจ้ำแดง ปื้นแดงๆ ขึ้นทั่วตัว ค่อยๆขึ้น ชม.แรก มีแค่ สองสามจุด ผ่านไป ชม.ที่สอง ขึ้น5-6จุดเรียงกัน เมื่อไปพบแพทย์ มีสารอาหารที่แพ้เป็นร้อยๆตัว ภาวะเม็ดเลือดแดงโต ทำให้ตัวช้ำ ห้อเลือดง่าย คอเรสเตอรอลสูง ร่างกายภายใน อักเสบ รุนแรง ทำให้แพทย์สั่งห้ามออกกำลังกาย นอกจากนี้ ยัง “ถ่ายเองไม่ได้” เพราะสวนล้างจนลำไส้ทำงานเองไม่ได้แล้ว ทำให้เธอล้มป่วยอย่างหนักเมื่ออายุ 28 ปี จู่ๆ ก็เกิดเพลียไม่มีแรง สลบไปดื้อๆ บางทีตัวบวม หน้าบวม ตึงไปทั้งหน้า หายใจไม่ออก อึดอัด แต่ไม่ถึงกับชัก ผื่น คัน ทั้งตัว
สำหรับความเจ็บป่วยครั้งนี้ มีบทสรุปว่า เกิดจากปัจจัยหลายๆ อย่างรวมกัน 1.การออกกำลังกายที่มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นจำนวนวันฝึกที่ถี่ไป มากไป ซ้อมหนักไป ถึงการฝึกคาร์ดิโอจะไม่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยจะเป็นจะตายเหมือนเวท แต่ก็ส่งผลต่อร่างกายเช่นกัน 2.ภาวะโภชนาการที่ไม่ดี หมายรวมถึงทุกๆด้าน เช่น พลังงานน้อยหรือมากเกินไป สัดส่วนสารอาหารทึ่ไม่เหมาะสม การแพ้อาหารบางชนิด การอดอาหารเป็นเวลานานๆ ทำให้พักผ่อน ไม่เพียงพอด้วย
3.ภาวะร่างกายเจ็บป่วย ร่างกายที่กำลังป่วยมีระดับพลังงานและระดับภูมิคุ้มกันที่ต่ำ และเสี่ยงต่อการ overtrain ได้ง่ายมาก ดังนั้นช่วงป่วยไม่ควรฝืน 4.ภาวะความเครียด หรือ คิดมากอาจไม่แสดงอาการและผู้เป็นอาจไม่รู้สึก ภาวะเครียดนี้จะชักนำร่างกายสู่โหมดสูญสลาย catabolic ดังนั้นการต้องเผชิญความเครียด และการฝึกหนักพร้อมกันทำให้เสี่ยงต่อการ overtrain ได้ 5.การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ และซ่อมแซมตัวเอง ไม่ทัน ทำให้ไม่พร้อมต่อการฝึกหนักๆ
โดยเธอระบุว่า ทำทุกอย่างแบบ หนักหน่วง และพร้อมๆกัน ถึงทำให้พังเร็วมาก คือ ทั้งคุมอาหาร ออกกำลังหนัก ดีทอกซ์ ซึ่งการเดินทางสายกลางน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด กินอาหารธรรมชาติ เลี่ยงของปรุงแต่ง อาหารกระป๋อง อาหารสำเร็จรูป ซึ่งปัจจุบันทำให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติ และสามารถออกกำลังกายได้เหมือนเดิมแล้ว