วันนี้เราเอา ความรู้เรื่องกรปั่นจักรยาน จากทาง นายแพทย์อี๊ด ลอประยูร ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกายกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ มาฝากเพื่อนๆนักปั่น thaibike.org ว่า การขี่จักรยาน
ถือว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ผู้ที่ขับขี่ก็ควรให้ความสำคัญในเรื่องของการเตรียมความพร้อมก่อนการขี่จักรยาน ด้วยเช่นกัน เนื่องจากหากเราไม่มีการเตรียมตัวให้ดีนั้น ประโยชน์ต่างๆที่เราควรจะได้รับจากการขี่จักรยานก็จะถูกแทนที่ด้วยอันตรายต่างๆแทน
ซึ่งทางศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ ได้ให้คำแนะนำในด้านการเตรียมความพร้อมหรือข้อควรระวังในการเริ่มขี่จักรยานต่างๆ ดังนี้
- การวอร์มกล้ามเนื้อก่อนและหลังจากขับขี่ เนื่องจากการขี่จักรยานจะมีการใช้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้อง ต้นขา และน่องเป็นอย่างมากเพื่อป้องกันและลดความเจ็บปวดเมื่อยล้า ป้องกันการเกิดกล้ามเนื้อ ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรวอร์มกล้ามเนื้อให้พร้อมก่อนขับขี่และยืดคลายกล้ามเนื้อหลังจากการขับขี่
- ปรับความสูงของเบาะนั่งให้เหมาะสมกับสรีระของร่างกาย เราควรปรับความสูงของเบาะนั่งให้พอดีกับสรีระและสัดส่วนของร่างกายเราเพื่อป้องกันไม่ได้เกิดอาการปวดหลัง เนื่องจากการงอก้มโค้งตัวมากเกินไป และเพื่อรักษาสรีระของรูปร่างให้เป็นปกติ ในข้อนี้เป็นข้อที่เราต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัญหานี้จะสามารถส่งผลเสียต่อเราในระยะยาวได้หากเราไม่มีการเตรียมพร้อมที่ดี
- หมวก ศรีษะเป็นอวัยวะที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่งในร่างกาย เราควรสวมหมวกเพื่อป้องกันศรีษะของเราไม่ให้กระแทกกับพื้น ในกรณีที่เราเกิดอุบัติเหตุ และหัวฟาดพื้น
- เครื่องแต่งกายและรองเท้าที่เหมาะสม การขี่จักรยานต้องอาศัยความคล่องตัวในการขับขี่สูงมาก ดังนั้นเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ต้องเหมาะสมไม่พะรุงพะรัง ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ และรองเท้าควรจะต้องเป็นรองเท้าผ้าใบเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการปั่น สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้
- น้ำเกลือแร่ ผู้ขับขี่ควรพกน้ำเกลือแร่เพื่อดื่มระหว่างพัก เนื่องจากการขี่จักรยานถือว่าเป็นการออกกำลังกายอีกประเภทหนึ่ง เวลาเราปั่นจักรยานเราจะต้องออกแรง ซึ่งนั่นจะทำให้เราสูญเสียเหงื่อไปเป็นจำนวนมาก และเพื่อรักษาสมดุลน้ำของร่างกาย ผู้ขับขี่ควรพกน้ำเกลือแร่ไว้ดื่มเมื่อเสียเหงื่อมากเกิดอาการขาดน้ำ หรือหมดแรง การขี่จักรยาน นับเป็นการออกกำลังกายที่ต้องใช้ทั้งสมาธิ และสมรรถภาพของร่างกายที่ดี
ซึ่งประโยชน์ของการออกกำลังกาย มีดังนี้
- ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน สมรรถภาพการทำงานของหัวใจจะดีขึ้นมาก ถ้าออกกำลังกายอย่างถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ 3 เดือน ชีพจรหรือหัวใจจะเต้นช้าลง ซึ่งจะเป็นการประหยัดการทำงานของหัวใจ
- ลดไขมันในเลือด ซึ่งถ้าสูงจะเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
- เพิ่ม HDL-C ในเลือด ซึ่งถ้ายิ่งสูงจะยิ่งดี จะช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
- ลดความอ้วน (ไขมัน) เพิ่มกล้ามเนื้อ (ทำให้น้ำหนักอาจไม่ลด)
- ป้องกันและรักษาโรคเบาหวาน
- ช่วยลดความดันโลหิตถ้าสูง ลดได้ประมาณ 10-15 ม.ม. ปรอท
- ช่วยทำให้หัวใจ ปอด ระบบหมุนเวียนของโลหิต กล้ามเนื้อ เอ็น เอ็นข้อต่อ กระดูก ผิวหนังแข็งแรงยิ่งขึ้น ช่วยลดความเครียด ทำให้นอนหลับดียิ่งขึ้นความจำดี เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ช่วยทำให้มีความเชื่อมั่นในตนเองยิ่งขึ้น
- ป้องกันโรคกระดูกเปราะ โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่ประจำเดือนหมด
- ช่วยทำให้ร่างกายนำไขมันมาเป็นพลังงานได้ดีกว่าเดิม ซึ่งเป็นการประหยัดการใช้แป้ง (glycogen) ซึ่งมีอยู่น้อย และเป็นการป้องกันโรคหัวใจ
- ช่วยป้องกันโรคมะเร็งบางชนิด เช่น ลำไส้ใหญ่ เต้านม ต่อมลูกหมาก
การขี่จักรยานนั้นเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่กำลังมาแรงในสังคมไทย ผู้ขับขี่ควรมีการเตรียมพร้อมทางร่างกายที่ดีเพื่อลดผลกระทบและผลเสียต่างๆที่จะเกิดขึ้น
ทางร่างกาย รู้อย่างนี้แล้วคงจะเห็นความสำคัญของการขี่จักรยานขึ้นมาทันที เพราะนอกจากจะเป็นกีฬาแล้ว เราจะได้ออกกำลังกายไปได้ภายในตัว
อย่างน้อยวันละ 20-30 นาที ก็สามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพต่างๆ และสร้างเสริมสุขภาพของท่านให้แข็งแรง
Cr : bangkokhospital