นำเรื่องราวอุบัติเหตุของเพื่อนนักปั่นจักรยานมาฝากชาวthaibike.org จากสมาชิก Pantip นามว่า Gorath โพสเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เวลา 21:20 น. ใจความว่า
อ่านเรื่องคนอื่นมาก็มาก ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง เรื่องมันผ่านมาแล้วหนึ่งอาทิตย์ วันนี้มาเล่าให้ฟังกันครับ….
ผมปั่นจักรยานมาได้หนึ่งปีพอดี เริ่มต้นจาก Hybrid Merida Crossway 100 เมื่อสองอาทิตย์ก่อน ผมก็ไปงอกหมอบคันแรกในชีวิตมา Java Feroce กะจะไว้ปั่นออก Event ต่าง ๆ มากมายในอนาคต หลังจากได้จักรยานคันใหม่มา ผมก็เอามันไปซ้อมปั่นหลังเลิกงานทุกวันที่ถนนเลียบรันเวย์สุวรรณภูมิ ตั้งแต่เวลาประมาณหกโมงเย็นถึงทุ่มครึ่งเป็นประจำ ติดต่อกันมา 1 อาทิตย์ ก็ปั่นได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกสนุกกับมันมาก…
และแล้วก็เกิดเหตุจนได้ ตอนนั้นประมาณทุ่มเศษ ๆ ผมปั่นรอบที่สองขากลับสวนลม ก็มีจับ drop บ้าง แต่ผมก็ค่อนข้างระมัดระวังตัวมาก เพราะเคยดูคลิปฝรั่งที่ปั่นไม่ดูทางจนไปชนท้ายรถยนต์เข้า ดังนั้นผมจึงพยายามมองถนนไปไกล ๆ เป็นระยะ ๆ ค่อนข้างถี่ ประมาณ 3 – 5 วินาทีครั้ง ซึ่งวันนั้นผมเห็นว่าถนนโล่ง ปั่นสบาย ข้างหน้ามีหมอบคันนึงปั่นเร็วกว่าผม ห่างไปสักเกือบร้อยเมตร ผมก็ปั่นตามเขาไปความเร็วประมาณ 30 – 31 kmh เหลืออีกสัก 5 km ก็จะถึงลานจอดรถอยู่แล้ว ทันใดนั้น ผมก็ชนเข้ากับอะไรสักอย่างอย่างรุนแรง ภาพหมุน หัวฟาดพื้นถนนเสียงดังปั้ง! ผมลงไปนอนกองราบอยู่กับพื้น แต่โชคดีที่มีหมวกกันน็อค เลยไม่เป็นอะไรมาก
หลังจากตั้งตัวได้ ก็ลุกขึ้นมาสำรวจสภาพรอบตัว โอเค..ผมชนกับเก๋งสีดำคันหนึ่งที่จอดขวางเลนมอเตอร์ไซต์อยู่ เปิดไฟฉุกเฉินกะพริบ ๆ ผมรู้สึกว่ามีเลือดอุ่น ๆ ไหลจากปาก และคอ เนื้อตัวปกติ ไม่มีอะไรหักบุบสลาย
ผมก้มมองจักรยานคันใหม่..อืม..หักเป็นสามท่อนไปแล้ว…ว่า ๆ จะทำประกัน ยังไม่ได้ทำเลย
หลังจากพูดคุยกับเจ้าของรถอยู่สักพักอย่างสุภาพ ตำรวจก็มา และหน่วยกู้ภัยก็มาพาผมไปโรงพยาบาล วันนั้นโดนเย็บทั่วหน้าไปประมาณ 40 เข็ม ส่วนใหญ่เป็นแผลกระจกรถบาด เพราะหัวผมทะลุเข้าไปในกระจกหลังรถของเขา สภาพรถของเขาคือกระโปรงท้ายบุบ กระจกแตก…นอกจากนั้นก็มีแผลแตกที่กระพุ้งแก้มอีกสามแผล
ภรรยาตามมาที่โรงพยาบาลด้วยความตกใจ แต่เมื่อเห็นสภาพก็เบาใจลง เพราะผมยังคุยเล่นกับหมอกับพยาบาลได้อยู่ แผลส่วนใหญ่พยาบาลจะฉีดยาชาให้ แต่บางแผลเขาก็ลืมฉีด โดยเฉพาะแผลในปาก โดนเย็บสด ๆ เจ็บมากกกกก >_<
สรุป งานนี้ผมเสียจักรยานคาร์บอนที่เพิ่งใช้ได้แค่ 7 วันอย่างไม่มีวันหวนคืน… เจ็บตัวพอสมควร กรณีนี้ถือว่าเราผิดเต็ม ๆ จริง ๆ เราก็มีไปดูกล้องวงจรปิดกันว่ารถยนต์เปิดไฟฉุกเฉินไว้หรือไม่อย่างไร แต่ด้วยความที่จุดเกิดเหตุอยู่ไกลเกินมุมกล้อง จึงไม่สามารถตัดสินอะไรได้ ถ้าสรุปตามหลักการณ์ก็ผมผิดนั่นแหละที่ไม่ใช้ความระมัดระวังไปชนท้ายเขา
ผมกลับมานั่งคิดทบทวน
1. ผมประมาท ถึงผมจะคิดว่าผมใช้ความระมัดระวังในการปั่นแล้ว แต่ก็ยังมีจังหวะที่ผมละสายตาจากถนน แม้จะเพียงไม่กี่วินาที แต่มันก็เกิดเหตุจนได้ ผมมานั่งคิดดูเล่น ๆ ว่า บางที ตอนเรามองถนนไปไกล ๆ มันอาจจะไม่มีรถคันนั้นอยู่จริง ๆ ก็ได้ แต่พอเราก้ม..เขาอาจจะเพิ่งมาจอด แล้วเราก็ชน…มันก็เป็นไปได้ แปลว่าต่อให้ผมคิดว่าผมระวังแล้ว แต่ถ้าผมละสายตาจากถนน แม้เพียงไม่กี่วินาที ผมก็เสี่ยงอยู่ดี (แต่เคสนี้คู่กรณีบอกเขามาจอดนานแล้ว)
2. อุปกรณ์ Safty สำคัญมาก ๆ ถ้าไม่ได้หมวกกันน็อค ผมอาจจะตายในที่เกิดเหตุเลยก็ได้ หรือไม่อย่างเบาะ ๆ ก็มีสลบ กระโหลกร้าว เลือดคั่ง ผ่าตัด ฯลฯ แว่นตาก็ช่วยผมไว้ได้เยอะ เพราะผมเอาแว่นมาดู เลนส์มีรอยโดนกระจกรถบาดเยอะมาก ๆ ถ้าผมไม่ใส่แว่น หรือใช้แว่นที่หลุดง่าย ไม่กระชับ เหวี่ยงนิดเดียวหลุด กระจกก็เข้าตาผมแน่นอน วันนี้อาจจะมานั่งพิมพ์แบบนี้ไม่ได้3. ในเสี้ยววินาทีที่อุบัติเหตุเกิดขึ้น ไม่มีทฤษฏี หรือทักษะใด ๆ ที่จะช่วยให้คุณรอด คุณจะเก็บคองอเข่า ตีกลังกาสามรอบ แทบเป็นไปไม่ได้ จังหวะนั้น ด้วย momentum แบบนั้น แล้วแต่บุญแต่กรรม และอุปกรณ์ safety ของคุณเท่านั้นที่จะตัดสินชีวิตคุณ
ก็อยากให้ระมัดระวังกันให้มาก ๆ อุปกรณ์ safety ใส่ให้ครบ ใส่ให้ดี ใส่ให้ใช้งานได้จริง พลาดพลั้งขึ้นมา มันเสียหายมาก…
ก็…ขอให้โชคดีครับทุกท่าน ผมก็ยังคงจะปั่นจักรยานต่อไป ปีแรกของผม ได้พบกีฬาชนิดนี้ที่ผมรัก ได้ฝึกฝนร่างกายในแบบที่ผมไม่เคยเป็นมาก่อน ได้ลองจักรยานคาร์บอนในฝัน ถึงจะแค่อาทิตย์เดียว….แต่มันก็สนุกมาก…ยังปั่นอีกเป็นสิบปี แต่ตอนนี้..
หยอดกระปุกออกคันใหม่ก่อน
Edit เพิ่มเติมครับ เพิ่งโทรคุยกับประกันจักรยานเจ้าหนึ่ง ในกรณีนี้ ประกันคุ้มครองนะครับ อุบัติเหตุทุกอย่างที่เราไม่ได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะปั่นหรือไม่ปั่น เช่นการขนย้าย เอารถขึ้นหลังคาแล้วไปชนสะพาน โดนแผงกั้นทางด่วนตกใส่เฟรมหัก ก็คุ้มครอง จักรยานประกอบเอง หรือย้ายอะไหล่เก่ามาลงเฟรมใหม่ เขาก็สามารถรับประกันให้ได้ มีการเช็คราคากลางให้ ก็แจ้งไว้เป็นแนวทางครับ คันหน้าผมคงต้องทำประกันไว้สักหน่อย