วิธีง่ายๆ ปรับพฤติกรรมการ ปั่นจักรยานให้ ปลอดภัย และ สบาย ด้วยหลักการไม่กี่อย่าง มาฝากชาวthaibike.org เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน นอกจากจักรยานเป็นวิธีสนุกและสร้างสุขภาพที่ดี การเตรียมตัวเอง ให้พร้อมก็เป็นสิ่งที่นักปั่น ต้องทำให้เป็นนิสัย
1. ต้องสวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง ให้เป็นนิสัย สิ่งสำคัญไม่น้อยกว่ากันคือ เลือกสีของหมวกที่เป็นโทนสีสว่าง มีขนาดที่พอดีกับศีรษะผู้ใส่ และเวลาสวมก็ปรับสายรัดให้กระชับ เลือกหมวกที่ผลิตได้มาตรฐาน มอก. หรือได้มาตรฐานความปลอดภัยในต่างประเทศ มาก่อนความสวยงาม หรือ ควบคู่กันไปทั้งความสวยงามและ เลือกหมวกที่ผลิตได้มาตรฐาน
2.ใช้ขนาดของจักรยานให้เหมาะกับตัวเอง ความสำคัญมากที่สุด ไม่ใช่เรื่องความสวย, ชุดเกียร์ หรือน้ำหนักของรถ แต่เป็นเรื่องของขนาดเฟรมที่เหมาะกับตัวของคุณเอง
3. เลือกใช้อานและปรับตำแหน่งให้ถูกต้อง ให้เหมาะกับสรีระของนักปั่น
4.เริ่มปั่นแบบ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่หักโหม ระยะแรกให้ปั่นด้วยความเร็วที่ไม่มากนักแต่รักษาระดับเอาไว้ และให้ขี่เป็นเวลาครั้งละ 30 นาที ทำอย่างนี้เป็นเวลาประมาณซัก 3-4 อาทิตย์ โดยเลือกเส้นทางที่เป็นทางเรียบ เมื่อผ่านไปซักพักค่อยเริ่มปั่นในเส้นทางที่มีเนินหรือขึ้นสะพาน เป็นการปรับสภาพร่างกายและพัฒนาทักษะในการปั่นเบื้องต้น อย่าพึ่งทำอะไรเกินตัวเกินไปในระยะเริ่มต้น เพราะอาจจะทำให้ร่างกายได้รับการบาดเจ็บได้
5.เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ควรเป็นชุดที่เป็นผ้าที่มีความกระชับและขนาดพอดีตัว เนื้อผ้ามีการระบายได้ดี และงดใส่เสื้อผ้าที่มีตะเข็บเพราะระหว่างการปั่นจะมีการขยับตัวตลอดเวลา อาจจะทำให้เกิดการเสียดสีทำให้ผิวหนังมีบาดแผลได้
6. ปั่นกลางคืนต้องมีไฟให้พร้อม จากสถิติในเวลาค่ำคืน ช่วงเวลาที่นักปั่นจักรยานประสบอุบัติเหตุและเสียชีวิตมากที่สุดคือช่วงเวลาตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 3 ทุ่ม เมื่อต้องปั่นจักรยานในเวลากลางคืน คุณควรสวมเสื้อผ้าที่มีสีสว่าง หรือชุดที่มีแถบสะท้อนแสง ที่หมวกควรมีไฟกระพริบหรือแถบสะท้อนแสงติดอยู่ และที่สำคัญที่ตัวจักรยาน ไฟสัญญาณด้านท้ายจะต้องเป็นไฟกระพริบสีแดง ส่วนด้านหน้าเป็นไฟส่องสว่างสีขาวที่ให้คุณมองทัศนวิสัยบนท้องถนนได้ชัดเจน การทำให้ตัวคุณและจักรยานสามารถมองสังเกตในที่มืด ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปั่นจักรยานในเวลากลางคืน
7. มีสติและเคารพกฎจราจรเมื่อขี่บนท้องถนน เมื่อปั่นจักรยานบนท้องถนนต้องอย่าลืมว่าเราใช้เส้นทางร่วมอยู่กับพาหนะอื่น ทั้งรถยนต์ รถสาธารณะ มอเตอร์ไซค์ ฯลฯ เราควรเรียนรู้การใช้สัญญาณมือในการสื่อสารให้สัญญาณกับคนที่ปั่นตามหรือรถคันอื่นๆ รวมถึงควรมีทักษะในการช่างสังเกต ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวถนน, รถยนต์ที่วิ่งเข้ามาใกล้, คนที่กำลังจะข้ามถนน ฯลฯ และควรรักษากฎจราจรเหมือนกับผู้ใช้ถนนคนอื่นๆ ไม่ขับย้อนศร ไม่ปั่นในเลนขวาที่ไว้สำหรับรถที่ใช้ความเร็ว, ไม่ฝ่าไฟแดง
